Macrophar

สารต้านอนุมูลอิสระกับสุขภาพในช่องปาก

อนุมูลอิสระ (Free Radical) หมายถึง อะตอมหรือโมเลกุลที่มีความไม่เสถียรและไวต่อการเกิดปฏิกิริยา ซึ่งเป็นสารพลอยได้ที่เกิดจากกระบวนการทำงานของร่างกาย เช่น การเผาผลาญอาหาร การหายใจของเซลล์ รวมถึงเกิดขึ้นจากกลไกการป้องกันตัวเองของร่างกายจากเชื้อจุลชีพ อนุมูลอิสระทำให้เกิดความเสื่อมของเซลล์ร่างกาย ทั้งนี้ร่างกายเราจะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สร้างได้เอง รวมกับวิตามินและแร่ธาตุที่ได้จากการทานอาหาร เพื่อช่วยควบคุมสมดุลของระบบการสร้างและทำลายเซลล์ร่างกาย  อนุมูลอิสระในช่องปากของเรา  ช่องปากเป็นจุดที่เราใช้ในการบริโภคอาหาร สำหรับผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ สิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นปริมาณอนุมูลอิสระในช่องปากและร่างกายของเรา รวมถึงผู้ที่ดูแลสุขอนามัยในช่องปากไม่ดีเพียงพอ จะมีการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก ซึ่งส่งผลเพิ่มอนุมูลอิสระเช่นเดียวกัน หากร่างกายมีสารดังกล่าวมากเกินไป หรือขาดสารต้านอนุมูลอิสระ จนมีการสะสมของอนุมูลอิสระ จะเกิดภาวะที่เรียกว่า Oxidative Stress จากข้อมูลวารสารทางการแพทย์พบว่าภาวะ Oxidative Stress มีความสัมพันธ์กับโรคในช่องปาก ทั้งโรคเหงือก ฟันผุ ฝ้าขาวที่ลิ้น และมะเร็งในช่องปาก เนื่องจากอนุมูลอิสระจะเร่งให้เกิดการทำลายเนื้อเยื่อ และการอักเสบในช่องปาก  ทั้งนี้เราสามารถลดการเกิดภาวะ Oxidative Stress เพื่อสุขภาพในช่องปากของเราได้ ด้วยการดูแลสุขอนามัยของช่องปากเพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค และลดการบริโภคแอลกอฮอล์และบุหรี่ สำหรับการเสริมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง โดยเฉพาะการรับประทานผัก ผลไม้ และธัญพืช ที่มีวิตามิน A, C และ E และยังมีเส้นใย (Fiber) ที่ช่วยขัดคราบสะสมตามซอกเหงือกและฟันเมื่อเราเคี้ยวอาหารดังกล่าวด้วย  ผลิตภัณฑ์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ  ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับช่องปากที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ยาสีฟันผสมชาเขียว และผลิตภัณฑ์สมุนไพร เช่น น้ำมันกานพลู ซึ่งนอกจากจะมีฤทธิ์ช่วยให้ชาเฉพาะที่แล้วและลดการอักเสบแล้ว ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วย   แบคตาดีน เมาท์ สเปรย์ มีส่วนผสมของน้ำมันกานพลู น้ำผึ้ง และสารสกัดจากถั่งเช่า ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยดูแลสุขภาพในช่องปาก และสมุนไพรกลุ่มน้ำมันหอมระเหย เพื่อให้ลมหายใจหอมสดชื่น  ข้อมูลอ้างอิง .R, S. P., 2014. Antioxidants in Oral Healthcare. J. Pharm. Sci. & Res., 6(4), pp. 206-209.  Compendium of Continuing Education for Dentistry, 2013. Use of Antioxidants in Oral Healthcare. [Online]  Available at: https://www.aegisdentalnetwork.com/cced/2011/03/use-of-antioxidants-in-oral-healthcare [Accessed Oct 2021].  Dr. Nimmi Singh, e. a., 2013. Antioxidants in Oral Health and Diseases: Future Prospects. Journal of Dental and Medical Sciences, 10(3), pp. 36-40.  สกุลเผือก, ด., n.d. อนุมูลอิสระและสารต้านอนุมูลอิสระ. [Online]  Available at: https://ccpe.pharmacycouncil.org/showfile.php?file=204 [Accessed Oct 2021]. 

แผลร้อนใน คือความร้อนมาจากไหน

แผลร้อนใน หมายถึง แผลในเนื้อเยื่ออ่อนภายในช่องปาก เหงือก กระพุ้งแก้ม และลิ้น โดยทั่วไปสามารถหายได้เองใน 5 ถึง 10 วัน โดยในระหว่างที่มีอาการอาจจะรบกวนให้พูดคุย หรือรับประทานอาหารได้ไม่สะดวก สำหรับอาหารที่เรารับประทานก็มีส่วนกระตุ้นให้เกิดแผลร้อนในได้ ตามทฤษฎีการแพทย์แผนจีน กล่าวว่าร่างกายของเรามีส่วนประกอบระหว่างสภาวะหยิน (เย็น) และสภาวะหยาง (ร้อน) ถ้าเราเลือกรับประทานอาหารที่เป็นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากเกิน⁠ไป ก็อาจจะทำให้เสียสมดุลจนเกิดแผลร้อนในในช่องปากได้ ในระหว่างที่มีแผลร้อนในหรือแผลในปาก จะมีคำแนะนำเพื่อลดการอักเสบของแผลหรือให้แผลหายเร็วขึ้น ดังนี้ หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นประเภทหยาง (ร้อน) ได้แก่ อาหารรสเผ็ดจัด ผลไม้รสหวานบางชนิด เช่น ลำไย ทุเรียน อาหาร⁠ทอด เป็นต้น ใช้ยาทาเฉพาะที่ในจุดที่มีแผล หรือรับประทานยาสมุนไพรรสเย็น เช่น ฟ้าทะลายโจร บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ หรือในปัจจุบันมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นสเปรย์สำหรับช่องปาก ซึ่งมีส่วนผสมของสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาการอักเสบในช่องปาก ดังนั้นถ้ารู้ว่าเราเป็นคนที่เป็นแผลร้อนในบ่อย แนะนำให้รับประทานอาหารประเภทผัก ซึ่งเป็นอาหารประเภทหยิน (เย็น) ที่จะช่วยดับร้อน รวมถึงเครื่องดื่มจะแนะนำเป็น เครื่องดื่มสมุนไพรแบบไม่ใส่น้ำตาล เช่น จับเลี้ยง เก๊กฮวย มะตูม ใบบัวบก เพื่อแก้กระหายน้ำ รวมไปถึงการพักผ่อนให้เพียงพอ และดูแลสุขภาพจิตใจ หากิจกรรมคลายเครียด จะได้ไม่เป็นร้อนในบ่อยๆ ให้คุยหรือกินไม่สะดวกได้อีก แหล่งที่มา · Greenery, 2019. สสส. เกร็ดความรู้สุขภาพ. [ออนไลน์] ลิงค์ · Rama Channel, 2017. รายการสามัญประจำบ้าน. [ออนไลน์] ลิงค์ · เชียงใหม่นิวส์, 2019. [ออนไลน์] ลิงค์