Macrophar

ท้องเสีย…กินยาอะไรได้บ้างนะ ?

ท้องเสีย

ท้องเสียเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญของประเทศไทย ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เป็นโรคที่พบได้บ่อย เกิดจากหลายสาเหตุและมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกัน อาจส่งผลกระทบต่อการทำงาน การเรียน หรือการประกอบกิจวัตรประจำวันได้ และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงในผู้ป่วยบางรายได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และทำงานของภูมคุ้มกันบกพร่อง ดังนั้นการรักษาอาการท้องเสียในช่วงเริ่มแรกโดยการใช้สารน้ำทดแทนทางปาก หรือที่เรียกว่า ORS และยาที่ใช้รักษาอาการท้องเสียอื่นๆ เท่าที่จำเป็น ก็สามารถทำได้เพื่อช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ 1. สารน้ำทดแทนทางปาก (ORS) การให้สารน้ำทดแทนทางปาก หรือที่เราเรียกกันบ่อยๆว่า ORS มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันหรือรักษาภาวะขาดน้ำที่เกิดจากท้องเสีย ซึ่งผู้ป่วยโรคท้องเสียทุกรายจะเกิดการสูญเสียน้ำและอิเล็กโทรไลต์ไม่ว่าจะมีอาการแสดงของการสูญเสียน้ำหรือไม่ ดังนั้น ผู้ป่วยทุกรายควรได้รับสารน้ำทดแทน ซึ่งรูปแบบของสารน้ำทดแทนที่ใช้ขึ้นกับความรุนแรง ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมากควรส่งต่อไปสถานพยาบาลเพื่อให้สารน้ำทดแทนในรูปฉีดเข้าหลอดเลือดดา ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการในระดับน้อยถึงปานกลาง ควรได้รับสารน้ำทดแทนทางปาก ซึ่งรูปแบบที่แนะนำและนิยมใช้ คือ สารละลายที่มีปริมาณน้ำตาลและอิเล็กโทรไลต์ตามที่องค์การอนามัยโลกกาหนด ซึ่งจะเรียกว่า oral rehydration solution (ORS) การให้ ORS  ในผู้ป่วยโรคท้องเสียถือว่ามีความสาคัญอย่าง จากการศึกษาทางคลินิก พบว่า การให้ ORS ในเด็กที่เกิดโรคท้องเสียช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้ถึงร้อยละ 50 อย่างไรก็ตาม ในการให้ ORS ต้องให้อย่างถูกต้องและเพียงพอ การรับประทาน […]

ท้องเสียบ่อย เกิดจากอะไรได้บ้าง ?

ท้องเสีย

โรคท้องเสีย (diarrhea) นับเป็นเป็นโรคที่พบบ่อย ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ และมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปริมาณของเชื้อและชนิดของเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย อาจส่งผลกระทบต่อการทำงาน การเรียน หรือการประกอบกิจวัตรประจำวัน หากร่างกายยิ่งมีการสูญเสียน้ำและเกลือแร่อย่างรวดเร็ว อาจทำให้ความดันโลหิตต่ำเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ “ท้องเสีย” คืออะไร ? หมายถึง ภาวะที่มีการถ่ายอุจจาระเหลว หรือถ่ายเป็นน้ำมากกว่าหรือเท่ากับ 3 ครั้งใน 24 ชั่วโมง (หรือถ่ายเป็นน้ำจำนวนมากอย่างน้อย 1 ครั้งใน 24 ชั่วโมง) หรือถ่ายมีมูกหรือปนเลือดอย่างน้อย 1 ครั้ง หากท้องเสียมีอาการไม่เกิน 2 สัปดาห์ เรียกว่าท้องเสียแบบเฉียบพลัน แต่หากนานกว่านั้นจะเรียกว่า ท้องเสียแบบเรื้อรัง ท้องเสีย แบ่งได้เป็น 3 ประเภท ตามระยะเวลาที่เกิดโรค 1. ท้องเสียเฉียบพลัน (acute diarrhea) เป็นภาวะที่มีอาการท้องเสียน้อยกว่า 14 วัน เป็นประเภทที่พบได้บ่อยที่สุด สาเหตุ ได้แก่ การติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือโปรโตซัว หรืออาจเกิดจากอาหารเป็นพิษเนื่องจากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อน preformed […]

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโรคท้องเสีย (Diarrhea)

อาการของระบบอาหารนั้นสามารถเกิดได้กับทุกคน แต่กับเด็กนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่อันตรายได้ ระบบทางเดินอาหารนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงตามภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะจากอาหารหรือวิถีชีวิต การสัมผัสกับสิ่งที่ร่างกายไม่คุ้นเคย เช่น ไวรัสหรือแบคทีเรีย สามารถทำให้เกิดอาการในระบบทางเดินอาหารได้หลายอย่างได้ ไม่ว่าจะเป็นการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องบิด หรือที่พบได้มาก คือ อาการอุจจาระร่วง อะไรคืออาการอุจจาระร่วง? อุจจาระร่วง คือ อาการที่อุจจาระเหลวหรือเป็นน้ำที่เกิดขึ้นบ่อย ฉับพลัน โดยอย่างน้อย คือ สามครั้งต่อวัน มันมีอาการปวดท้อง ปวดบิด คลื่นไส้ มีลมในท้อง หรือท้องอืด อาการอุจจาระร่วงที่หายภายในไม่กี่วัน เรียกว่า อุจจาระร่วงเฉียบพลัน สำหรับในกรณีที่เป็นนานมากกว่านั้น คือ อุจจาระร่วงเรื้อรัง สามารถเป็นได้นานถึงสัปดาห์หรือเดือน ซึ่งเป็นอาการที่นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายและควรที่จะต้องได้รับการดูแล อาการอุจจาระร่วงนั้นเป็นเรื่องที่พบบ่อย ผู้ใหญ่ประเทศสหรัฐอเมริกันเกือบทุกคนมักจะมีอุจจาระร่วงประมาณ 4 ครั้งต่อปี เด็กจะป่วยเป็นอุจจาระร่วงมากกว่าผู้ใหญ่ ซึ่งโดยเฉลี่ยประมาณ 10 ครั้งจนถึงอายุ 5 ปี หลายอย่างสามารถกระตุ้นอุจจาระร่วงได้ ได้แก่ ไวรัส แบคทีเรีย พยาธิ ผลข้างเคียงจากยา โรคลำไส้บางชนิด เช่น Celiac disease, Crohn’s disease […]

ยาแก้ท้องเสียกลุ่มสารดูดซับคืออะไร

ยาแก้ท้องเสียที่จัดอยู่ในกลุ่มสารดูดซับ ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่มีตัวยาต่างกันดังนี้ Dioctahedral smectite Activated charcoal Kaolin โดยยากลุ่มสารดูดซับจะออกฤทธิ์ดูดซับเชื้อโรคและสารพิษที่อยู่ในทางเดินอาหาร เพื่อขับออกจากร่างกาย เนื่องจากอาการท้องเสียโดยส่วนใหญ่เกิดจากการได้รับเชื้อโรคเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบขับถ่ายในร่างกาย ประสิทธิภาพของตัวยา อย่างไรก็ตามตัวยาทั้ง 3 ตัวที่ได้กล่าวไปก็มีข้อแตกต่างในส่วนของผลการทดสอบประสิทธิภาพในผู้ป่วยของแต่ละตัวยาที่แตกต่างกัน ตัวยา Dioctahedral smectite เป็นตัวยาเดียวที่มีผลยืนยันประสิทธิภาพการใช้รักษาท้องเสียในเด็ก ตามคำแนะนำของสมาคมกุมารเวชศาสตร์ทางเดินอาหารและตับ โดยมีผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาตัวยาดังกล่าวให้อยู่ในรูปแบบยาน้ำพร้อมรับประทานภายใต้ชื่อการค้า Dehecta ใน 1 ซองบรรจุยาน้ำ 20 ml (มีตัวยา Dioctahedral smectite 3g) เพื่อความสะดวกในการพกพาและนำมาใช้เมื่อมีอาการท้องเสีย สามารถใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ การใช้ยาแก้ท้องเสียกลุ่มสารดูดซับ สำหรับคำแนะนำการใช้ยาแก้ท้องเสียกลุ่มสารดูดซับ แนะนำให้ดื่มน้ำตามหลังรับประทานยาเพราะยาอาจจะทำให้เกิดอาการท้องผูก และที่สำคัญคือถ้าผู้ป่วยมียาที่ต้องรับประทานร่วมกัน หรือยารักษาโรคประจำตัว จะต้องรับประทานยาแก้⁠ท้องเสียกลุ่มสารดูดซับห่างจากยาอื่น 1 – 2 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้ตัวยาไปดูดซับยาอื่น ทั้งนี้ก่อนการใช้ยาทุกชนิดควรปรึกษาขนาดและวิธีใช้ยาที่ถูกต้องได้จากเภสัชกรชุมชนใกล้บ้านท่าน เพื่อความมั่นใจและประสิทธิภาพและความปลอดภัยจากการใช้ยา แหล่งข้อมูลอ้างอิง 1) สมาคมกุมารเวชศาสตร์ทางเดินอาหารและตับ. (n.d.). แนวทางเวชปฏิบัติการดูแลรักษาโรคท้องร่วงเฉียบพลันในเด็ก พ.ศ.2562. 2) ภญ.สิริมา วรนาวิน. (ม.ป.ป.). การใช้ยาแก้ท้องเสียให้ถูกต้อง. เข้าถึงได้จาก ฝ่ายเภสัชกรรม คณะแพทยศาสตร์ โรง⁠พยาบาลรามาธิบดี: ลิงค์

เมื่อลูกท้องเสีย..จะให้กินอาหารอะไรได้บ้าง

เด็กเล็กเป็นวัยที่เกิดท้องเสียได้มากที่สุด เนื่องจากภูมิต้านทานยังพัฒนาไม่เต็มที่ หรือมักจะหยิบอาหารรับประทาน หรือ⁠มี⁠พฤติกรรมการหยิบจับของเล่นแล้วเอาเข้าปาก และการคลานโดยที่ยังไม่รู้จักการป้องกันตัวเองจากสิ่งสกปรก เมื่อเด็กมีอาการท้องเสียสิ่งสำคัญคือการให้ทยอยจิบน้ำเกลือแร่ ORS เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำและเกลือแร่จากการ⁠ขับ⁠ถ่าย และปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรใกล้บ้าน เพื่อแนะนำการใช้ยาตามอาการให้เหมาะสม สำหรับการรับประทานอาหารในเด็กที่ท้องเสียโดยแพทย์มีคำแนะนำ ดังนี้ เด็กเล็กที่รับประทานนมแม่ให้รับประทานตามปกติ ให้รับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะกับช่วงวัย โดยให้เลือกอาหารที่ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก หรือข้าวต้ม ไม่จำเป็นต้องงดนมผสม ให้รับประทานได้ตามปกติ แต่อาจจะแบ่งเป็นทีละน้อยและรับประทานบ่อยๆ สำหรับนมสูตรปราศจากแลคโตสจะเหมาะกับเด็กที่มีอาการท้องเสียรุนแรง หรือเด็กที่มีภาวะ lactose intolerance สำหรับยาแก้ท้องเสียที่สามารถรับประทานได้ในเด็ก ได้แก่ตัวยา Dioctahedral smectite โดยออกฤทธิ์ช่วยดูดซับเชื้อโรคทั้งไวรัส แบคทีเรีย และสารพิษที่เชื้อโรคสร้างขึ้น สามารถให้รับประทานในเด็กอายุ 2 ปีขึ้นไปโดยมีผลการศึกษาประสิทธิภาพว่าช่วยให้หายท้องเสียได้เร็วขึ้น ตัวอย่างเช่น Dehecta ซึ่งมีตัวยา Dioctahedral smectite อยู่⁠ในรูปแบบยาน้ำพร้อมรับประทาน รสวานิลลา-สตรอว์เบอร์รี่ แหล่งข้อมูลอ้างอิง 1) วิทยาศัย, ผ. (n.d.). โรคท้องเสียในเด็ก. Retrieved from กลุ่มงานกุมารเวชศาสตร์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี: ลิงค์ 2) สมาคมกุมารเวชศาสตร์ทางเดินอาหารและตับ. (n.d.). แนวทางเวชปฏิบัติการดูแลรักษาโรคท้องร่วงเฉียบพลันในเด็ก พ.ศ.2562.

ท้องเสียพร้อมกับมีไข้ จะใช่ Covid-19 หรือเปล่านะ

จากสถานการณ์ของโรคติดต่อ Covid-19 ที่อาจจะทำให้มีอาการปอดอักเสบรุนแรง ทำให้หลายคนที่มีการเจ็บป่วย เช่น ไข้ ไอ รวมถึงอาการท้องเสีย วิตกกังวลว่าตนเองจะเจ็บป่วยจากเชื้อ Covid-19 หรือไม่ โดยสรุปล่าสุดขององค์การอนามัยโลก โรค Covid-19 ผู้ป่วยมักจะมีอาการ ดังนี้ – อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ไข้ (> 37.3 °C) ไอแห้ง อ่อนเพลีย – อาการที่พบได้ในผู้ป่วยบางราย ได้แก่ เจ็บคอ ท้องเสีย ปวดเมื่อยตามตัว คัดจมูก น้ำมูกไหล สูญเสียความสามารถในการดมกลิ่นและรับรส ดังนั้นถ้าเราพบว่ามีอาการท้องเสียร่วมกับมีไข้ แล้วเกิดกังวลว่าจะเป็น Covid-19 ให้เริ่มจากทำแบบประเมินความเสี่ยงของโรค Covid-19 เนื่องจาก Covid-19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเกิดจากการมีพฤติกรรมเสี่ยงร่วมด้วย นอกจากนี้อาการไข้ ยังเป็นอาการหนึ่งของผู้ที่มีอาการท้องเสียทั้งจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ถ้าทำแบบประเมินความ⁠เสี่ยงแล้วอยู่ในระดับต่ำ ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรใกล้บ้าน เพื่อรับประทานยาบรรเทาอาการท้องเสียที่เหมาะสม และเนื่องจากท้องเสีย เป็นโรคที่พบได้กับทุกวัย และไม่สามารถคาดการณ์ที่จะเกิดเวลาได้ เราอาจจะมียาแก้ท้องเสียสำรองไว้ที่บ้าน เพื่อบรรเทาอาการให้ทันท่วงที เช่น เกลือแร่ ORS และยาแก้ท้องเสีย เช่น […]

ท้องเสีย..แต่ทำไมไม่ได้ยาปฏิชีวนะ

โรคท้องเสีย หมายถึงอาการถ่ายอุจจาระเหลวมากกว่าวันละ 3 ครั้ง เกิดจากการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีเชื้อ⁠โรคปน⁠เปื้อน หรือรับประทานอาหารรส⁠จัด หรือเกิดจากยารักษาโรคบางชนิด หลายครั้งโรคท้องเสียเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ดัง⁠นั้นจึงไม่จำเป็นต้องกินยาปฏิชีวนะซึ่งออกฤทธิ์สำหรับโรคติดเชื้อแบคทีเรีย โดยแพทย์หรือเภสัชกรจะซักอาการของโรค เช่น ถ้าอาการถ่ายท้องเสียไม่มีมูกเลือดปน ไม่มีไข้⁠สูง และมีอา⁠เจียนร่วมด้วย มักจะเป็นอาการท้องเสียชนิดที่ไม่ได้ติดเชื้อแบคทีเรีย การรักษาเมื่อมีอาการดังกล่าว ให้ผู้ป่วยดื่มเกลือแร่ ORS เพื่อชดเชยแร่ธาตุที่สูญเสียจากการขับถ่าย และรับประทานยาแก้ท้องเสียเพื่อช่วยให้หายได้เร็วขึ้น เช่น ตัวยา Dioctahedral smectite ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยดูดซับเชื้อโรค ทั้งไวรัส แบคทีเรีย และสารพิษที่เชื้อโรคสร้างขึ้น ตัวอย่างเช่น Dehecta มีตัวยา Dioctahedral smectite ซอง⁠ละ 3 กรัม อยู่ในรูปแบบยาน้ำพร้อมรับประทาน สามารถรับประทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ดังนั้นถ้าท้องเสียแต่เภสัชไม่จ่ายยาปฏิชีวนะ อาจจะได้ยาอื่นทดแทนซึ่งเหมาะสมกับอาการที่เป็นอยู่ ถ้ามีข้อสงสัยเพิ่มเติมปรึกษาได้ที่เภสัชกรชุมชนใกล้บ้านท่าน แหล่งข้อมูลอ้างอิง กองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา. (n.d.). ท้องเสียอย่างไรต้องใช้ยาฆ่าเชื้อ. Retrieved from http://pca.fda.moph.go.th/public_media_detail.php?id=6&cat=62&content_id=1321 ท้องเสียเฉียบพลัน จำเป็นต้องกินยาปฏิชีวนะหรือไม่. (n.d.). Retrieved from เกร็ดความรู้สู่ประชาชน โดยนักศึกษาฝึกปฏิบัติงานคลังข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล: https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/knowledge_full.php?id=2 สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์. […]