โรคข้อเข่าเสื่อม เป็นโรคของผู้ที่มีอายุมากขึ้นหรือคนที่มีอาการปวดเข่าบ่อยๆ ซึ่งบุคคลที่มีอาการเหล่านี้ เบื้องต้นมักจะรักษาอาการด้วยการทานยาหรือทานอาหารเสริมเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด ซึ่งชื่อยาหรืออาหารเสริมที่ใช้รักษาอาการข้อเข่าเสื่อม หรืออาการปวดเข่าที่เรามักพบเห็นบ่อยๆ คือ กลูโคซามีน (Glucosamine) คอนดรอยติน (Chondroitin) และคอลลาเจน (Collagen) วันนี้ เราจะมาอธิบายว่ายาหรืออาหารเสริมทั้ง 3 ชนิดคืออะไร และแตกต่างกันอย่างไร
กลูโคซามีน (Glucosamine)
เป็นสารตั้งต้นในการสร้าง โปรตีโอไกลแคน ไกลโคโปรตีน ไกลโคสามิโนไกลแคน กรดโฮยาลูโรนิก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเนื้อเยื่อเกือบทุกชนิดในร่างกายของคนเรารวมทั้งกระดูกอ่อนผิวข้อ โดยโปรตีโอไกลแคน ทำให้กระดูกอ่อนผิวข้อมีความยืดหยุ่น รองรับแรงกระแทกจากการเคลื่อนไหวของกระดูกข้อต่อได้ดี
เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกอ่อนผิวข้อเริ่มสึกกร่อน น้ำไขข้อลดลง ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม จึงมีการนำกลูโคซามีนสังเคราะห์ มาใช้รักษาหรือชะลอความเสื่อมของข้อเข่า
ผลการศึกษาพบว่าผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมที่ได้รับกลูโคซามีนซัลเฟต วันละ 1,500 มิลลิกรัม เป็นเวลา 3 ปี ช่วยลดอาการปวด และช่วยลดการแคบลงของข้อได้
คอนดรอยติน (Chondroitin)
เป็นสารในการสร้างองค์ประกอบสำคัญของเนื้อเยื่อและกระดูกอ่อนผิวข้อ ทำให้กระดูกมีคุณสมบัติทนต่อแรงกดได้ เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายผลิตคอนดรอยตินลดลง ประสิทธิภาพในการทนต่อแรงกดก็ลดลงตามไปด้วย อันนำไปสู่การเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมนั่นเอง
คอลลาเจน (Collagen)
เป็นส่วนประกอบของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกายรวมทั้งกระดูกอ่อนผิวข้อด้วย มีคุณสมบัติเสริมสร้างความแข็งแรง ความยืดหยุ่น เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายผลิตคอลลาเจนลดลง กระดูกอ่อนผิวข้อจึงเสื่อมไม่แข็งแรงเหมือนตอนอายุยังน้อย
ด้วยเหตุนี้จึงหวังผลว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจน ที่มีจำหน่ายมากมายในปัจจุบัน จะไปกระตุ้นการสร้างกระดูกอ่อนเพิ่มขึ้น โดยคอลลาเจนที่นิยมนำมาใช้กับกระดูกอ่อนผิวข้อและข้อต่อ คือ คอลลาเจน type 2 แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ Collagen hydrolysate และ Undenatured collagen เนื่องจากคอลลาเจน type 2 เป็นคอลลาเจนที่พบในกระดูกอ่อนผิวข้อ ช่วยกระตุ้นร่างกายให้สังเคราะห์เซลล์ใหม่ขึ้นมาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยเพิ่มระดับน้ำไขข้อ ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่จะย่อยสลายน้ำไขข้อ
จากการศึกษาของ University of Tuebingen ประเทศเยอรมนี ซึ่งติดตามผู้ที่มีภาวะข้อเสื่อมจํานวน 2,000 คน พบว่าผู้ที่เป็นโรคข้อเสื่อมซึ่งได้รับคอลลาเจน (Collagen Hydrolysate) วันละ 5 กรัม ติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน ช่วยลดการอักเสบและอาการเจ็บปวด จากการเคลื่อนไหวได้
แม้ว่าผลการศึกษาวิจัยในปัจจุบัน คอลลาเจนช่วยให้อาการที่เกิดจากข้อเข่าเสื่อมดีขึ้นได้ แต่เนื่องจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจน มีมากมายหลายยี่ห้อ วัตถุดิบที่นำมาใช้ผลิตมีหลายประเภทเช่น กระดูกไก่, ปลา, หมู, วัว หรือ ปลาหมึก คุณภาพการผลิตของแต่ละยี่ห้อก็อาจจะมีความแตกต่างกันได้มาก ไม่สามารถควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบ และการผลิตได้อย่างเข้มงวดเหมือนกับยา ทำให้เป็นการยากที่จะบอกได้ว่าคอลลาเจนยี่ห้อใดเมื่อใช้แล้วจะเกิดประโยชน์ หรือ ผลดีต่อโรคข้อเข่าเสื่อมของคนไข้ได้มากที่สุด